วันที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๖๗ พระเทพวัชรเมธี, ผศ.ดร. อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร คณาจารย์และเจ้าหน้าที่ ร่วมกิจกรรมวันวิสาขบูชานานาชาติ ครั้งที่ ๑๙ ภายใต้แนวคิด “พุทธวิถีสู่การสร้างความไว้วางใจและความสามัคคี” (The Buddhist Way of Building Trust and Solidarity) เพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ เนื่องในวันวิสาขบูชา วันสำคัญสากลของโลก ประจำปี ๒๕๖๗ ณ ศูนย์ประชุมสหประชาชาติ ถนนราชดำเนินนอก กรุงเทพฯ
โอกาสนี้ พระเทพวัชรเมธี, ผศ.ดร. อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ได้รับอาราธนาให้ร่วมกล่าวสุนทรพจน์ความตอนหนึ่งว่า
“ในวาระนี้มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ภาคภูมิใจที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม และได้จัดงานเสวนาวิชาการเรื่อง ‘การดำรงชีวิตวิถีพุทธด้วยความไว้วางใจและสามัคคีในโลกยุคใหม่’ ด้วยตระหนักดีว่า โลกแห่งความเปลี่ยนแปลง เทคโนโลยีที่แปรผันอย่างรวดเร็ว และนานาบริบทที่เปี่ยมด้วยพลวัตอันส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อปรกติภาวะในปฏิสัมพันธ์ของผู้คน ทำให้ความไว้วางใจ ความจริงใจ และความสามัคคีในมวลมนุษยชาติ ซึ่งเป็นเหตุปัจจัยโดยตรงของสันติภาพ ต้องเผชิญความท้าทายมากกว่ายุคสมัยที่ผ่าน ๆ มาอย่างหลีกเลี่ยงมิได้
อย่างไรก็ตาม กระบวนทัศน์ ‘โยนิโสมนสิการ’ หรือการพิจารณาทำความในใจให้แยบคายด้วยอุบายอันชาญฉลาด ตามหลักการของพระพุทธศาสนา ย่อมแปรวิกฤตแห่งทุกข์เป็นโอกาสแห่งปัญญาได้เสมอ
พระพุทธธรรมของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ยังคงเป็นประทีปแห่งปัญญาที่สามารถนำวิถีชี้หนทางสรรพชีวิต ให้ประสบผลสัมฤทธิ์เชิงความสัมพันธ์ได้อย่างยั่งยืน อำนวยสันติรสแห่งความสามัคคีเป็นหนึ่งเดียวได้ในที่สุด เมตตา ขันติ และสัจจะ ย่อมโอบอุ้มพวกเราให้สามารถก้าวข้ามพ้นปัญหา ช่วยนำพาความสงบและค่อย ๆ ประสานความสัมพันธ์อันกลมเกลียวระหว่างผู้คนผู้มีธรรมดาแห่งการแบ่งเขาแบ่งเรา ในโลกที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ด้วยการโน้มน้าวน้ำใจให้เกิดฉันทะที่จะดำเนินชีวิตตามพุทธวิธี เข้าสู่วิถีชีวิตประจำวัน ครั้นเมตตา ขันติ และสัจจะ หยั่งรากฐานของความไว้วางใจและความสามัคคีที่อยู่เหนือข้อจำกัดของเทคโนโลยีสมัยใหม่ไว้อย่างมั่นคงแล้ว ดอกผลคือความสงบสุขที่มาดหมายก็ย่อมค่อย ๆ แผ่ขยายผลิบาน เป็นความรื่นร่มรมณีย์แห่งชีวิตอันเกิดขึ้นภายในจิตใจ แม้จำต้องดำรงตนอยู่ท่ามกลางความว้าวุ่นของโลกปัจจุบันก็ตาม
ขอความไว้วางใจและความจริงใจในสัจจะ ประกอบกับความสามัคคีอันบังเกิดมีแต่เมตตาและขันติ จงช่วยจรรโลงสายสัมพันธ์อันผาสุกสันติในทุกชีวิตและทุกสังคมเสมอไป
จิรํ ติฏฺฐตุ สทฺธมฺโม ธมฺเม โหนฺตุ สคารวา.
ขอพระสัทธรรมจงดำรงคงมั่นอยู่ตลอดกาลนาน และขอเราท่านทั้งหลาย มีความเคารพในพระธรรมนั้น เทอญ.“
ภาพ : กองเทคโนโลยีสารสนเทศ
ข่าว : ฝ่ายสื่อสารองค์กร มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย